ขั้นตอนการสร้างแอปพลิเคชัน
ในการทำแอปพลิเคชันให้รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android นั้นสามารถแบ่งแยกขั้นตอนการดำเนินการได้อย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาในการดำเนินงานอย่างชัดเจน เพื่อให้ผลงานออกมามีคุณภาพสูงสุด รวมไปถึงเรายังพร้อมให้คำปรึกษาแนวทางที่เหมาะสมและดีที่สุดกับธุรกิจของคุณ
แอปพลิเคชันส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ มีจุดเริ่มต้นจากไอเดีย หากคุณยังไม่มีไอเดีย หรือความคิดว่าจะทำแอปพลิเคชันอะไรดีนั้น ลองคิดในมุมของปัญหา และทางออกต่าง ๆ ที่เป็นไปได้ หรืออาจจะมองจากปัญหาที่เกิดขึ้นจากชีวิตประจำวันที่ประสบอยู่ ว่าเหตุใดเราทำกันมาแบบนี้เป็นปกติ มีวิธีที่ดีกว่าที่จะช่วยให้แก้ปัญหาเหล่านี้ได้หรือไม่ ถ้าเราระบุปัญหา และความไม่มีประสิทธิภาพของการใช้ชีวิตในปัจจุบันได้ คุณผ่านไปแล้วครึ่งทางของขั้นตอนนี้ รับทำแอพ และ รับทำแอพมือถือ
วางแผน
หลังจากที่ได้ไอเดีย และแนวคิดแล้วว่าลูกค้าต้องการจะสร้าง แอปพลิเคชัน อะไร ขั้นตอนต่อมา ก็คือ เราจะต้องวางแผนว่าจะทำอย่างไร แอปพลิเคชันนั้นทำอะไรได้บ้าง นอกจากนี้ยังต้องวางแผนเรื่องอื่น ๆ ด้วย อาทิเช่น: - วางแผนเกี่ยวกับคู่แข่ง วางแผนช่องทางการหารายได้ วางแผนการตลาด และการวางแผน Road Map
ดีพอยด์
ส่วนนี้คือการรับส่งและเก็บข้อมูลของ mobile app ถ้า server โดนใช้งานหนักเกิน หรือล่ม แอปก็ทำงานไม่ได้ไปด้วย server ต้องสามารถ scale ได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือแอปเกิดบูมขึ้นมา เทคโนโลยีฝั่ง server ก็มีหลากหลาย ตั้งแต่ Infra ไปจนถึง programming ยกตัวอย่างเช่น AWS, Google Cloud, Kubernetes, Docker, Node.js, RoR, etc.
ออกแบบ
ออกแบบ UX / UI เพื่อวางโครงสร้างข้อมูล เป็นขั้นตอนที่เราตัดสินใจว่าแอปเราต้องแสดงข้อมูลอะไรบ้าง และทำงานอะไรได้บ้าง ปกติเราจะลิสต์มาว่าแอปมี feature อะไร ทำอะไรได้บ้าง และต้องแสดงข้อมูลอะไรที่หน้าไหนของแอป จากนั้นเราก็มาสร้างเป็น wireframe, workflows และ Click-through model เพื่อทดลองเหมือนเล่นแอปพลิเคชันจริง
นำขึ้นสโตล์
การอัพแอปขึ้น store เราต้องมั่นใจว่าแอปได้ config ถูกต้องสำหรับ production มีขั้นตอนหลายขั้นตอนในการทำ มีฟอร์มหลายอันที่ต้องกรอก ต้องทำ screenshot และเนื้อหาสำหรับ marketing ต้องเขียนคำอธิบาย และเราก็ submit ขึ้นไป ฝั่ง Apple จะมีการตรวจที่ละเอียดกว่า Google Play ฝั่ง Apple จะใช้เวลา 2–3 วัน ส่วน Google Play จะได้ในไม่กี่ชั่วโมงเลย
เขียนโค้ด
Developer จะเริ่ม code ตาม requirement ใน task ที่ได้รับมอบหมาย developer ต้องเข้าใจเป้าหมายสูงสุดของแอป และเจตนาของแต่ละ task ถ้าบางอย่างมันทำไปแล้วดูไม่ถูกต้อง developer ต้องรีบมาบอก PM เพื่อจะได้หาทางออกกัน เมื่อ task นั้นๆ เสร็จก็จะ deploy ขึ้น development version ให้ tester เทสได้
มอนิเตอร์
เมื่อ submit app ขึ้นไปแล้ว งานของเรายังไม่จบ จะเห็นได้ว่าแอปดังๆ ทุกแอปมีลิสต์ของอัปเดทยาวเป็นหางว่าว ไม่ว่าจะเป็น แก้บัค, เปลี่ยน เพิ่มฟีเจอร์ การสังเกตการณ์สำคัญมากๆ เพื่อเราจะได้รู้ว่าต้องอัปเดท ปรับปรุง หรือแก้ไขอะไร นี่คือสิ่งที่ต้องสังเกตการณ์
