In-app purchase คือ ชื่อเรียกวิธีการจ่ายเงินจริงเพื่อซื้อความสามารถหรือคุณสมบัติของตัวแอปพลิเคชัน เช่น การจ่ายเงินเพื่ออัพเกรดความสามารถของแอปพลิเคชันให้สามารถทำงานได้สูงกว่ากว่าเวอร์ชันฟรี เป็นต้น ถ้าเป็นเกม โดยเฉพาะเกมในโทรศัพท์มือถือจะนิยมใช้ In-app purchase ในการซื้อสิ่งของมาอัปเกรดความสามารถให้กับตัวละครในเกม เป็นต้น
เกมในโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่มักจะออกแบบมาให้รองรับระบบ in-app purchase และทำระบบเกมออกมาเอื้อให้คนจ่ายเงินเพื่อซื้อของมาเพิ่มความสามารถให้ตัวละครเนื่องจากการจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือนั้น สามารถทำได้ง่ายและโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเกมที่สามารถเล่นเพื่อเอาคะแนนไปแข่งขันกับคนอื่น ๆ ได้ ก็จะยิ่งทำให้คนยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อของในเกมมากยิ่งขึ้น หรือแม้แต่การลบโฆษณา ปลดล็อคเกมอย่างเต็มรูปแบบ อัปเกรดเป็นรุ่นโปร โบนัสเลเวลเกม ซึ่งใน Google Play และ Apple App Store แอปพลิเคชันที่มีระบบ In-app purchase จะมีข้อความระบุไว้อย่างชัดเจน
วิธีซื้อ In-app purchase การจ่ายเงินเพื่อซื้อ In-app purchase สามารถทำได้เหมือนการซื้อแอพฯ ตามปกติแล้วในประเทศไทยสามารถทำได้ หลากหลายวิธีมาก อาทิเช่น:-
- การจ่ายผ่านบัตรเครดิต ใช้วิธีสมัครบัตรเครดิตแล้วจึงนำมาผูกข้อมูลของบัตรเข้ากับบัญชีที่ใช้งานในโทรศัพท์มือถือ แต่หากไม่มีบัตรเครดิตก็สามารถใช้บัตรเดบิตแทนก็ได้ ซึ่งจะแตกต่างจากบัตรเครดิตตรงที่การหักเงินจะหักออกจากเงินที่มีอยู่ในบัญชี และใช้เงินได้เท่ากับจำนวนที่มีอยู่ ไม่ใช่การจ่ายเงินล่วงหน้าแบบบัตรเครดิต
- จ่ายผ่าน Carrier Billing เปลี่ยนจากการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต มาเป็นการจ่ายเงินผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือแทน ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถืออยู่ 2 ค่ายที่ให้บริการ Carrier Billing คือ AIS และ DTAC
- QR Payment คือ Quick Response Payment เป็นวิธีการจ่ายชำระเงินหรือโอนเงินที่รวดเร็วรูปแบบหนึ่ง โดยอาศัย ในการจ่ายชำระผ่านแอปพลิเคชัน ที่ธนาคารหรือธุรกิจได้จัดทำไว้ ซึ่งปัจจุบันทุกธนาคารได้หันมาใช้ธุรกรรมออนไลน์มากยิ่งขึ้น เพราะสะดวก รวดเร็ว และประหยัดทรัพยากรต่างๆ ด้วย เช่น ค่ากระดาษ ค่าแรงงาน ค่าขนส่ง เป็นต้น แอพพลิเคชั่นดังกล่าว คือ Mobile Banking ที่ผู้ใช้งานต้องดาวน์โหลดและติดตั้งไว้ในโทรศัพท์เพื่อสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้ หลายๆ ธนาคารได้สร้างแอปพลิเคชันเช่นกัน เพื่อรองรับการทำธุรกรรมที่สามารถช่วยลดต้นทุนให้แก่ธุรกิจได้
- TrueMoney Wallet คือ บัญชีกระเป๋าเงินออนไลน์ จาก TrueMoney เพื่อให้บริการการเงินออนไลน์ เริ่มต้นง่ายๆ เพียงสมัครสมาชิก แล้วเติมเงินเข้า Wallet เพื่อนำไปใช้จ่ายในบริการต่างๆได้เลย เช่น จ่ายบิล เติมเงินมือถือ โอนเงิน ซื้อรหัสบัตรเงินสด และจ่ายผ่านบัตร WeCard
- Google Pay บริการจ่ายเงินแบบออนไลน์ ซึ่งเป็นบริการที่ให้เราสามารถนำบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตมาผูกกับ Google Account และเมื่อต้องการจ่ายเงินซื้อของไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้งผ่าน Google Chrome หรือ Google Assistant รวมทั้งร้านค้าต่าง ๆ ที่รองรับ Google Pay ก็สามารถเลือกจ่ายด้วย Google Pay ได้ทันที (คล้ายๆ พวก PayPal กับ LINE Pay) ซึ่งมีข้อดีคือความสะดวกเพราะไม่ต้องกรอกข้อมูลและเลขบัตรเครดิต และยังมีความปลอดภัยกว่า เพราะ Google Pay จะไม่เปิดเผยเลขบัตรเครดิตให้ร้านค้าที่เราจ่ายเงินรู้ และยังมีการเข้ารหัสข้อมูลของผู้ใช้ไว้อย่างแน่นหนานั่นเอง
และในส่วนของแอป Google Pay นั้นเราจะสามารถดูประวัติการชำระเงินได้ว่าเคยจ่ายเงินซื้ออะไรไว้ที่ไหนเมื่อไหร่บ้าง รวมทั้งสามารถดูรายชื่อร้านค้าในละแวกนั้นที่รองรับ Google Pay สามารถดู Reward โปรโมชั่นส่วนต่าง ๆ รวมทั้งจัดการบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับ Google Account ได้ด้วย
นอกจากนี้ในอนาคตกูเกิลจะเปิดให้สามารถโอนเงินให้คนอื่นผ่านแอป Google Pay Send ซึ่งเป็นแอปที่จะมาแทนที่ Google Wallet อีกด้วย
ซึ่ง AIS รองรับการจ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการผ่าน Google Play Store และ DTAC รองรับการซื้อแอปพลิเคชันผ่าน Windows Phone Store แต่สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS นั้น ขณะนี้ ยังไม่มีการเปิดให้บริการ Carrier Billing ในประเทศไทย
การกดซื้อแอปพลิเคชันหรือซื้อ In-app purchase โดยปกติแล้วถ้าหากเป็นระบบปฏิบัติการ Android ที่มีการผูกข้อมูลบัตรเครดิตหรือ Carrier Billing ไว้แล้ว จะสามารถซื้อได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องมีการยืนยันข้อมูล แต่หากเป็นระบบปฏิบัติการ iOS จะมีหน้าจอให้ใส่รหัสผ่าน Apple ID เมื่อมีการซื้อสินค้าทุกครั้ง
Carrier Billing หรือ Operator Billing คือ การชำระสินค้าและบริการในโทรศัพท์มือถือ โดยการคิดเงินจากผู้ให้บริการเครือข่าย หากเป็นระบบรายเดือน ก็จะตัดยอดจ่ายเงินในเดือนถัดไป แต่ถ้าเป็นระบบเติมเงิน จะถูกตัดเงินตามจำนวนทันที ถือเป็นบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ Smartphone ที่ไม่มีบัตรเครดิตเป็นอย่างมาก สำหรับในประเทศไทย
